Plant-based milk alternatives continue to grow in USA นมจากพืชกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในอเมริกา

ตอนเด็กๆ เราทุกคนเคยจะได้ยินคำสอนของผู้ใหญ่ว่าอยากโตเร็วๆ ต้องกินนมเยอะๆ อยากสูงต้องกินนม และอีกต่างๆ นานาคำพูดเกี่ยวกับการส่งเสริมให้เราดื่มนม จนมีโครงการนมสำกรับเด็กในโรงเรียน ที่เด็กได้กินนมบูดนมเน่าและเป็นแหล่งหรือช่องทางในการทุจริตต่างๆเกี่ยวกับการจัดซื้อนมมาให้เด็กๆ ในโรงเรียนดื่ม

วันนี้ไม่ได้มาพูดถึงเรื่องของการดื่มนมหรือการทุจริตจากโครงการนมสำกรับเด็กในโรงเรียน แต่จะมาพูดถึงข้อมูลที่น่าสนใจของปริมาณการดื่มนมในประเทศสหรัฐ โดยทาง Dairy Farmers of America (DFA) ของประเทศสหรัฐหรือจะพูดง่ายเปรียบเทียบกับบ้านเราก็คือกลุ่มคนเลี้ยงวัวนม ได้ให้ข้อมูลที่สำคัญว่าในตอนนี้ปริมาณยอดขายของนมได้ลดลงจำนวน 1100 ล้านเหรียญสหรัฐ จากยอดขายในปี 2018 ที่ขายนมได้จำนวน 13.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ เปรียบเทียบกับยอดขายในปี 2017 ที่ขายได้จำนวน 14.7 พันล้านเหรียญ

ที่จำนวนยอดขายของนมในประเทศสหรัฐมีจำนวนลดลง ทางประธานกลุ่มผู้เลี่ยงวัวนมในประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ระบุว่ามาจากความนิยมในการดื่มนมที่มาจากพืช (plant based milk) และราคานมที่มีราคาลดลงมากถึง 7 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งนมทางเลือกที่มาจากพืชเป็นที่นมเป็นอย่างมากในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยในปี 2017 นมทางเลือกที่มาจากพืช มีมูลค่าตลาดจำนวน 11.9 พันล้านเหรียญ และผู้เชี่ยวชาญ0kd Grand View Research คาดว่าความนิยมจะเพิ่มมากขึ้นและอาจจะมียอดขายมากถึง 34 พันล้านเหรียญภายในปี 2024

ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะนมทางเลือกที่มาจากพืช เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่รักสุขภาพ และดีสำหรับสิ่งแวดล้อมโลกอีกด้วย และจากการศึกษาของ University of oxford ได้ระบุว่าการทำเลี้ยงวัวนมนำมาซึ่งการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นจำนวนมากกว่า 3 เท่าเมื่อเปรียบเทียบกับการปลูกพืชอย่างเช่น ถั่วเหลือง อัลมอนต์ ข้าวโอ๊ต เพื่อนำมาผลิตนม นอกจากนี้การเลี้ยงวัวนมยังต้องใช้พื้นที่และน้ำในการเลี้ยงวัวนมเป็นจำนวนมาก

จากข้อมูลดังกล่าวก็ไม่น่าแปลกใจว่าทำไมคนในสหรัฐอเมริกาเริ่มหันมาบริโภคนมที่มาจากพืชกันมากขึ้น