สวัสดีเพื่อนชาว Tasteem TH
วันนี้แอดมินหมายเลขสาม ขอพาเพื่อนทุกคนมาทำความรู้จัก กับไอศครีมต้นตำรับของชาวอิตาลี ซึ่งมีเอกลักษณ์พิเศษเป็นของตัวเอง ทั้งด้านรสชาติ ส่วนผสม ซึ่งก็จะไม่เหมือนกับไอศครีมทั่วไป ซึ่งจะว่าไปแล้ว ไอศครีมในแต่ละภูมิภาคทั่วโลกจะมีรสชาติไม่เหมือนกัน ซึ่งทางอเมริกาจะเน้นหวานมากมันมาก ซึ่งบางครั้งก็จะมากเกินไป ส่วนทางยุโรปก็จะแบ่งเป็นสองลักษณะ กลุ่มที่หนึ่งคือ ไอศครีมแบบยุโรปดั้งเดิม คือจะเน้นนมครีม เป็นส่วนผสมหลัก ซึ่งรสชาติก็จะออกมันหน่อยๆ ส่วนกลุ่มที่สองก็คือ ไอศครีมแบบยุโรปสมัยใหม่ ไม่เน้นครีมแต่จะเน้นส่วนผสมที่เป็นผลไม้ ซึ่งในบางครั้งก็ไม่มีส่วนผสมของนม หรือครีมด้วยซ้ำ ซึ่งไอศครีมแบบนี้กำลังเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก
ผลข้างเคียงของกระแสนิยมรสชาติสมัยใหม่ โดยจะเน้นผลไม้เป็นหลัก ทำให้ร้านไอศครีมส่วนใหญ่หันมาผลิตไอศครีมแบบใหม่นี้กันมากแทบจนไม่เหลือความเป็นเอกลักษณ์ดั้งเดิม ของการทำไอศครีมแบบชาวยุโรปกันเลย และการหาไอศครีมรสชาติ Original แบบดั้งเดิมก็หายยากขึ้นทุกวัน
วันนี้จิตใจโหยหาพาไปร้านส้มตำเจ้าประจำที่ห่างจากบ้านไปประมาณ เกือบ 100 กิโลเมตรอีกครั้ง หลังจากที่รับประทานส้มตำอร่อย เผ็ด เปรี้ยวหวาน ตามลักษณะของส้มตำไทยแท้แล้ว จึงมีความรู้สึกว่าต้องดับรสชาติในปากด้วยของหวานเย็น เช่นไอศครีม แต่เนื่องจากที่นี่อยู่ไกลมาก เราจึงไม่รู้ว่าต้องไปหาร้านอร่อยที่ไหน บุคคลที่พึ่งได้ตลอดเวลาก็คือคุณ Google ท้ายที่สุดแล้วคุณ Google ก็แนะนำให้เราไปร้านที่อยู่ห่างจากร้านส้มตำไปประมาณ 30 กิโลเมตรเพราะเป็นร้านที่ได้รับคะแนนเฉลี่ยถึง 4.9/5 คะแนนเราเองจึงสงสัยเพราะยังไม่เคยเห็นร้านใด ได้คะแนนสูงมากขนาดนี้ จึงต้องแวะมาดูและชิมให้ได้
เมื่อขับรถมาถึงที่หมาย สิ่งแรกที่เห็นก็คือโบสถ์ขนาดใหญ่อยู่ขวามือ และตรงข้ามจะมีตรอกที่ค่อนข้างเล็ก มีป้ายบอกชื่อว่า “Matthias Marchkl Gasse“ หลังจากที่เดินเข้าตรอกนี้ได้ประมาณ 50 เมตรก็จะเห็นร้านไอศครีมอยู่ทางด้านขวามือ เป็นร้านเล็กๆ ซึ่งหากไม่ตั้งใจมาจะหาร้านนี้ไม่พบแน่ เมื่อมาถึงหน้าร้านก็มองเห็นคนกลุ่มหนึ่ง นั่งรับประทานไอศครีมอยู่ตรงม้านั่งหน้าร้าน ด้านในร้านมีแม่ค้าซึ่งเป็นชาวอิตาลีแท้ ยืนขายไอศครีมอยู่ ซึ่งเราก็ไม่เคยเห็นมาก่อน ปกติแถบนี้ไม่มีชาวอิตาลีอาศัยอยู่ จะมีก็แต่ชาวเมืองพื้นเพที่นี่เท่านั้น ซึ่งตอนหลังก็ทราบว่าเป็นครอบครัวเจ้าของร้านเอง ซึ่งร้านนี้เป็นธุรกิจแบบครอบครัวและทุกคนก็ดูแลธุรกิจนี้ร่วมกัน
(โบสถ์ตรงปากทางเข้า)
(ป้ายบอกชื่อซอย)
(ตรอกเล็กๆ ทางเข้าร้าน)
(Caorle ice cream)
สิ่งที่สังเกตได้อันดับแรก ที่มาที่นี่ก็คือความสะอาด ร้านนี้มีการดูแลรักษาเรื่องความสะอาดดีมาก ทุกอย่างจัดเป็นระเบียบเรียบร้อยและไม่มีครับสกปรกที่ไหนให้เห็นทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นพื้น ไปจนถึงผนังและชั้นวางของ ส่งประกายเงางาม เหมือนเพิ่งถูกเช็ดทำความสะอาดมา ทุกสิ่งทุกอย่างได้รับการดูแลอย่างเอาใจใส่ เพราะว่าเจ้าของเป็นคนดูแลเองไม่ใช่ลูกจ้าง ดูจากลักษณะโดยรอบแล้วรู้เลยว่า บุคคลเหล่านี้รักอาชีพนี้และทำด้วยใจจริง
ต่อมาสิ่งที่โดดเด่นไม่แพ้กันก็คือ ความมีมนุษยสัมพันธ์ของแม่ค้าทั้งคู่ ซึ่งก็เป็นผู้ผลิตไอศครีม และครอบครัวเจ้าของร้านด้วย ยิ้มแย้มแจ่มใสต้อนรับลูกค้า ซึ่งก็สร้างความเบิกบานให้กับจิตใจได้ ไม่แพ้กันกับไอศครีมในตู้แช่ ที่เล็งประกายและสีสดใสต้องตาต้องใจจนรู้สึกว่าอยากจะชิมทุกรสชาติเลยทีเดียว
ร้านนี้ตกแต่งในลักษณะคลาสสิค ด้วยโทนสีอ่อน ตัดกับสีแดงเข้ม ซึ่งก็ดูโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของร้าน ด้านในร้านมีตู้แช่ไอศครีม ขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง ซึ่งในตู้แช่ก็จะมองเห็นไอศครีมหลากสี สวยงามน่าลิ้มลองคือ เหมือนจะกวักมือเรียกลูกค้า ให้แวะเวียนเข้ามาทักทายและซื้อหาไปรับประทานกัน ด้านหน้าตู้แช่จะมีพื้นที่ซึ่งก็ไม่กว้างนัก ไว้ให้ลูกค้ายืนเลือกไอศครีม และสั่งไปรับประทาน โดยหน้าร้านจะมีเฉพาะม้านั่ง (ไม่มีโต๊ะ) ไว้ให้ลูกค้านั่งรับประทานไอศครีม
ด้านหน้าร้านมีป้ายขนาดใหญ่ ซึ่งก็เป็นป้ายเมนูไอศครีมทุกชนิด ที่ทางร้านนำเสนอ โดยมีมากมายหลายรสชาติ ตั้งแต่ วนิลา ช็อกโกแลต สตอเบอรี่ คุกกี้ เลมอน แมงโก้ และอื่นๆอีกมากมายเอาไว้ให้ลูกค้าเลือกสั่งได้ตามใจชอบ คาดว่าทุกคนที่มาที่นี่ก็ต้องคิดหนัก ว่าจะสั่งรสใหนและแบบใดดี เพราะว่าดูแล้วน่ารับประทานด้วยกันทั้งนั้น
(menu)
(Ice cream )
เราสั่งไอศครีมโคนธรรมดา รวมแล้วสองคูป ก็คือรส สตอเบอรี่ และเเมงโก้ ส่วนสามีก็สั่งไอศครีมโคน แบบสามคูป คือโยเกิร์ต คุกกี้ และ Staciatella ซึ่งก็เป็นรสชาติ ที่พบได้ทั่วไปในประเทศอิตาลี
ไอศครีมอร่อยไม่เหมือนใคร ซึ่งที่ว่าไม่เหมือนใครนั้นก็คือไม่เหมือนใครจริงๆ เพราะเนื้อไอศครีมนุ่มไม่จับกันเป็นก้อน ไม่เย็นเกินไป มีฟองอากาศอยู่ด้านในเนื้อไอศครีม ซึ่งจะละลายอย่างนุ่มนวลละมุนละไม เมื่อสัมผัสกับลิ้นทำให้รู้สึกถึงเป็นการลิ้มรสอย่างแท้จริง
(Strowberry- Mango)
(Yogurt-Cookie- Straciatella)
รสชาติหลักของไอศครีมจะไม่เน้นหวานมากแต่จะเป็นแบบครีมมี่ หรือมันหน่อยๆ ซึ่งก็เป็นรสชาติต้นตำรับของชาวอิตาลีโดยแท้ ซึ่งหารับประทานทุกวันนี้แทบไม่ได้แล้ว ด้วยความมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง จึงทำให้ร้านนี้มีชื่อเสียงโด่งดังในระแวกนี้
ตัวเราเองนั้นที่จริงแล้วชอบไอศครีมรสชาติแบบสมัยใหม่ ที่เน้นเรื่องส่วนผสมของผลไม้มากกว่า แต่ถึงกระนั้นก็ต้องยอมรับว่า ที่นี่มีเอกลักษณ์ด้านรสชาติอย่างแท้จริง
เมื่อรับประทานเสร็จแล้ว ติดใจซื้อกลับบ้านไปไว้รับประทานต่อในคราวหน้าด้วย เพราะไม่ได้มาแถบนี้บ่อยๆ ซึ่งทางร้านก็แพ็คไอศครีมใส่กล่องโฟมกันร้อนอย่างดี แล้วพ่อกระดาษสวยงามให้อีกด้วย ซึ่งการทำเช่นนี้ก็ช่วยให้ไอศครีมไม่ละลาย อย่างน้อยเป็นเวลา 1 ชั่วโมง
(ไอศรีมแพ็คกลับบ้าน)
บรรยายเรื่องรสชาติที่แสนอร่อย และบริการที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ ปกติก็ต้องคิดว่าราคาคงจะแพงลิบลิ่ว แต่สิ่งที่น่าแปลกใจก็คือ ราคาไอศครีมของที่นี่ อยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่ถูกและไม่แพง ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับคุณภาพแล้ว แทบไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว
ร้านนี้เปิดให้บริการทุกวัน จาก 11:00 น. ไปจนถึง 20:00 น. โดยจะหยุดเฉพาะวันนักขัตฤกษ์เท่านั้น ส่วนใดฤดูหนาวซึ่งหิมะตก ร้านไอศครีมทุกแห่งในประเทศนี้ก็จะปิดให้บริการเป็นเวลาสามเดือนซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติของที่มี
หากเพื่อนเข้าไปดูตามลิงค์นี้ จะรู้ทันทีว่าที่นี่ได้รับคะแนนความนิยมชมชอบสูงถึง 4.9/5 คะแนน ซึ่งหากจะให้เราตัดสินจากความชอบส่วนตัวก็คงจะประมาณนี้เช่นกัน
Link:
ขอบคุณสำหรับความสนใจและหวังว่าจะได้พบกันอีกในรีวิวหน้า
@friends.group
Admin3
Join Tasteem Discord:
ข้อมูลเกี่ยวกับร้านอาหาร
Caorle Eis Cafe' Eisenstadt
Matthias-Marckhl-Gasse 1, 7000 Eisenstadt, ออสเตรีย
โพสต์นี้ได้เข้าร่วมกิจกรรมของทาง Tasteem ของหวานของโปรด